ประวัติกีฬาฟุตบอล และความเป็นมาของกีฬาฟุตบอล

สำหรับ ประวัติกีฬาฟุตบอล นั้น คำว่า “ฟุตบอล” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ซอคเกอร์” เป็นเกมกีฬาที่ผู้เล่นสองทีม ทีมละ 11 คน ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายยกเว้นมือ และแขนพยายามเคลื่อนบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม มีเพียงผู้รักษาประตูเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้มือจับลูกบอล

และสามารถทำได้ภายในเขตโทษรอบประตูเท่านั้น และทีมที่ทำประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในด้านจำนวนผู้เล่นและผู้ชม เนื่องจากเสน่ห์ของมันคือ ดูง่าย ดูสนุก สามารถเข้าใจในกฎกติกาอย่างง่ายดาย

กีฬานี้สามารถเล่นได้เกือบทุกที่ ตั้งแต่สนามเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ไปจนถึงโรงยิม ถนน สนามเด็กเล่นของโรงเรียน สวนสาธารณะ หรือชายหาด สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ Fédération Internationale de Football Association (FIFA)

ประมาณการว่าในช่วงศตวรรษที่ 21 มีผู้เล่นฟุตบอลประมาณ 250 ล้านคนทั่วโลก และผู้คนมากกว่า 1.3 พันล้านคนให้ความสนใจติดตามการแข่งขันกีฬาฟุตบอล และข่าวคราววงการฟุตบอล ในปี 2010 พบว่า มีผู้ชมโทรทัศน์รวมกว่า 26,000,000,000 ดูฟุตบอลรายการที่สำคัญที่สุดรายการหนึ่งของโลกอย่างฟุตบอลโลก

ประวัติกีฬาฟุตบอล ช่วงแรกเริ่ม

การเล่นกีฬาฟุตบอลสมัยใหม่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 ตั้งแต่ก่อนยุคกลาง เริ่มมีการเล่นฟุตบอลทั่วไปตามหมู่บ้าน ในเมือง ตามประเพณีท้องถิ่นและตามกฎที่ควบคุม เนื่องจากการทำอุตสาหกรรมและการขยายตัวของเมืองซึ่งได้ลดเวลาของการพักผ่อนลง ทำให้คนต้องการเวลาและพื้นที่ที่สามารถใช้เพื่อการละเล่นละการสันทนาการ จึงมีการเล่นฟุตบอลขึ้น โดยเกมฟุตบอลถือเป็นกีฬาที่อยู่ในหลักสูตรฤดูหนาวให้นักเรียนได้เล่นระหว่างอยู่ในบ้านพักโรงเรียน

เช่น Winchester, Charterhouse และมัธยมอีตัน ซึ่งแต่ละโรงเรียนจะมีกฎเกณฑ์ของตนเอง บางที่อนุญาตให้เล่นฟุตบอลได้อย่างอิสระ และบางที่ก็ไม่อนุญาตให้เล่นได้อย่างอิสระ ดังนั้น ความแปรปรวนของกฎเกณฑ์ทำให้นักเรียนชายที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยไม่สามารถเล่นต่อได้ ยกเว้นกับอดีตเพื่อนร่วมโรงเรียนมี่เล่นมาด้วยกัน จึงได้มีความพยายามที่จะสร้างมาตรฐาน และกำหนดกฎของการเล่นโดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งมีนักเรียนที่เข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้รับเอา “กฎของเคมบริดจ์” มาใช้ ซึ่งได้มีการเผยแพร่ต่อไปโดยผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากเคมบริดจ์ ได้ทำการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลขึ้นเป็นครั้งแรก ในปีพ.ศ. 2406 โดยมีการประชุมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนของสโมสรฟุตบอลในมหานครลอนดอน และเมืองโดยรอบ และได้จัดทำกฎกติการเล่นฟุตบอลขึ้นอย่างเป็นทางการและเป็นจุดเริ่มต้นของ ประวัติกีฬาฟุตบอล ขึ้นในโลกสมัยใหม่

การเริ่มก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ Fédération Internationale de Football Association หรือ ฟีฟ่า (FIFA) เป็นองค์กรที่ดำเนินการในกีฬาฟุตบอลระหว่างประเทศ และเป็นองค์กรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกปัจจุบัน สำนักงานตั้งอยู่ที่เมือง ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย ฟีฟ่าก่อตั้งเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 1904 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยจะเห็นได้จากชื่อในภาษาฝรั่งเศสที่ยังคงใช้มาในปัจจุบัน โดยประธานฟีฟ่าคนแรกคือ รอแบร์ เกแร็ง ปัจจุบันฟีฟ่ามีการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในการควบคุมดูแล ในรายการต่างๆ คือ ฟุตบอลโลก คอนเฟเดอเรชันส์คัพ ฟุตบอลโลกหญิง ฟุตบอลโลกเยาวชน ยู 20 ฟุตบอลโลกเยาวชน ยู 17 ฟุตบอลโลกเยาวชนหญิง ยู 19 ฟุตบอลในโอลิมปิก ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ หรือฟุตบอลสโมสรโลก นอกจากฟุตบอลพื้นฐานแล้ว ฟีฟ่ายังคงจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก หรือฟุตซอลโลก เริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1989 และบีชซอกเกอร์เวิลด์คัพ หรือการแข่งขันชิงแชมป์โลกสำหรับฟุตบอลชายหาด สำหรับประธานฟีฟ่าคนปัจจุบันคือ จันนี อินฟันตีโน ชาวสวิส-อิตาลี ซึ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 และเข้ามารับตำแหน่งแทนเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานคนเดิมชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่มีข่าวฉาวก่อนจะลงจากตำแหน่ง และถูกแบนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลหลายปี

ประวัติกีฬาฟุตบอลการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก

ประวัติกีฬาฟุตบอล โลก หรือ ฟีฟ่าเวิลด์คัพ (FIFA World Cup) เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระหว่างประเทศ โดยการแข่งขันฟุตบอลโลก เริ่มครั้งแรกในปี ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สำหรับผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งแรกคือ จูลส์ ริเมท์ (Jules Rimet) เป็นชาวฝรั่งเศส โดยเขาได้เสนอในที่ประชุมของประเทศสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1902 (พ.ศ.2445) แต่กว่าจะลงตัวและเริ่มจัดขึ้นจริง ๆ คือปี ค.ศ.1930 ซึ่งประเทศที่ได้เกียรติเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกได้แก่ ประเทศอุรุกวัย โดยมีประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 13 ชาติ และประเทศอุรุกวัยก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะประเทศอาร์เจนตินาไป 4-2 ประตู ทั้งนี้ เพื่อเป็นเกียรติแด่ จูลส์ ริเมท์ ถ้วยรางวัลชนะเลิศในครั้งนั้นจึงใช้ชื่อ “ถ้วยจูลส์ ริเมท์”จากนั้นก็มีการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ต่อเนื่องมาทุก 4 ปี โดยครั้งที่ 2 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) ที่ประเทศอิตาลี ผลปรากฏว่าทีมเจ้าภาพก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้อีก ด้วยการเอาชนะประเทศเชโกสโลวาเกีย ส่วนครั้งที่ 3 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ประเทศอิตาลียังยอดเยี่ยมคว้าแชมป์โลกไปครองได้อีกสมัย แต่หลังจากฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 การแข่งขันต้องหยุดชะงักไป 12 ปี (ค.ศ.1942, 1946) เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มาเริ่มแข่งขันครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ.2493) โดยประเทศบราซิลรับเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางความขัดแย้งของหลาย ๆ ชาติ เนื่องจากควันหลงจากสงครามโลกนั่นเอง

ต่อมาในปี ค.ศ.1970 (พ.ศ.2513) ประเทศบราซิลได้คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 จึงได้สิทธิ์ครอบครอง ถ้วยจูลส์ ริเมท์ (ซึ่งภายหลังได้ถูกขโมยไป) ทางสมาชิกสหพันธ์ ฟุตบอลนานาชาติ จึงได้จัดทำถ้วยรางวัลขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “ถ้วยฟีฟ่า” ทำด้วยทองคำ มีความสูง 36 เซนติเมตร มูลค่าประมาณ 4 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้มาจนถึงปัจจุบัน ในปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2524) เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 ทางสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติได้ปรับเปลี่ยนจำนวนทีมเข้าแข่งขันจากเดิม 16 ทีม เป็น 24 ทีม และในปี ค.ศ.1998 (พ.ศ.2541) ต่อมาเพิ่มจาก 24 ทีมเป็น 32 ทีม เนื่องจากกีฬาฟุตบอลเริ่มได้รับความนิยมไปแพร่หลายทั่วโลก แต่ละประเทศมีการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาก จึงน่าจะมีทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากขึ้นตามไปด้วย จนได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก